Mindblown: a blog about philosophy.
-
คำถามที่ควรถามลูกค้า
14 คำถามที่ควรถามลูกค้า ความท้าทายของธุรกิจ: อะไรคือความท้าทายในธุรกิจสถานตรวจสภาพรถของลูกค้า? ความสำคัญของโปรแกรม: ฟีเจอร์อะไรในโปรแกรมที่ลูกค้าต้องการให้มีเป็นอันดับแรก? ความแตกต่างจากระบบเดิม: อะไรคือความแตกต่างระหว่างการออกใบเสร็จด้วยมือและการใช้โปรแกรมนี้? ขั้นตอนปัจจุบัน: อธิบายขั้นตอนการทำงานปัจจุบันว่ามีความสะดวกหรือติดปัญหาตรงไหน? อุปสรรคในการเติบโต: อะไรคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจลูกค้าไม่เติบโตตามที่คาดหวัง? ประเมินประสิทธิภาพ: ลูกค้าวัดประสิทธิภาพอย่างไร และอยากให้โปรแกรมแก้ปัญหาในส่วนใด? ข้อกังวลการซื้อ: ส่วนไหนที่ลูกค้ายังกังวลในการตัดสินใจซื้อครั้งนี้? ข้อสงสัยในสินค้า: ลูกค้ามีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจในส่วนใดของผลิตภัณฑ์? เวลาในการออกใบเสร็จ: ลูกค้าใช้เวลากี่นาทีในการออกใบเสร็จด้วยมือ? จุดชอบ-ไม่ชอบ: อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าชอบและไม่ชอบในโปรแกรม? ข้อเสนอแนะการปรับปรุง: ลูกค้าอยากให้เราเปลี่ยนหรือแก้ไขส่วนไหนในโปรแกรม? ความคาดหวังจากผลิตภัณฑ์: ลูกค้าคาดหวังว่าโปรแกรมจะช่วยงานในส่วนไหนเป็นพิเศษ? กระบวนการตัดสินใจซื้อ: ลูกค้ามีกระบวนการอย่างไรในการตัดสินใจซื้อโปรแกรมนี้? ความไม่มั่นใจสุดท้าย: อะไรทำให้ลูกค้ายังกังวลและไม่มั่นใจในโปรแกรม? ตัวอย่างบทสนทนา: นักขาย: “ปัจจุบันคุณใช้โปรแกรมอะไรในการจัดการเอกสารบ้างครับ?” ลูกค้า: “ผมใช้ Excel ครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่สะดวกเท่าไหร่”นักขาย: “คุณเคยประสบปัญหาในการค้นหาเอกสารที่ต้องการไหมครับ?” ลูกค้า: “ใช่ครับ บางทีก็หาไม่เจอ ทำให้เสียเวลาในการทำงาน”นักขาย: “ปัญหาในการค้นหาเอกสารทำให้เสียเวลาในการทำงานไปมากน้อยแค่ไหนครับ?” ลูกค้า: “เยอะมากครับ บางทีก็ต้องใช้เวลาทั้งวันในการค้นหาเอกสารสำคัญ”นักขาย: “ถ้ามีระบบที่ช่วยให้คุณค้นหาเอกสารได้รวดเร็วขึ้น คุณจะสามารถประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้นไหมครับ?”ลูกค้า: “ได้แน่นอนครับ ผมจะได้มีเวลาไปโฟกัสงานที่สำคัญกว่า” วิธีแสดงความเข้าใจถึงความรู้สึกลูกค้า นักขาย: “ตอนฟังเรื่องนี้ครั้งแรก…
-
การปิดการขาย
ขั้นตอนการปิดการขาย เทคนิคการตอบคำถามให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น เทคนิคการตอบคำถามลูกค้าให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น (คลิป) ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าใดๆ ตามธรรมชาติแล้วพวกเขามักมีข้อสงสัยในหลายประเด็น เช่น คุณภาพสินค้า, การบริการ, ราคาคุ้มค่า และ ความแตกต่าง ระหว่างสินค้าแต่ละยี่ห้อ การตอบคำถามลูกค้าให้ตรงจุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น หลักการตอบคำถามลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งข้อสงสัยในใจคิดไว้เสมอว่าทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าจากเรา ไม่ใช่เพียงแค่บอกว่าสินค้าของเราดี แต่ต้องตอบคำถามที่ตรงกับความกังวลหรือความต้องการของลูกค้า เตรียมคำตอบล่วงหน้ารวบรวมคำถามหรือข้อโต้แย้งที่ลูกค้าถามบ่อย เช่น คุณภาพ, ความคุ้มค่า, การบริการ, หรือเปรียบเทียบกับคู่แข่ง และเตรียมคำตอบที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ตอบตรงจุดอย่าพยายามอธิบายเรื่องที่ลูกค้าไม่ได้ถาม เช่น การอธิบายสเปคสินค้าในเชิงลึก หากไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลของลูกค้า 4 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยปิดการขายได้ง่าย คุณภาพลูกค้ามักสงสัยว่าสินค้าดีจริงหรือไม่ และเหมาะสมกับการใช้งานของเขาหรือเปล่า อธิบายจุดเด่นด้านคุณภาพอย่างตรงประเด็น ใช้ตัวอย่างหรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ยืนยันความน่าเชื่อถือ เช่น การรับประกันสินค้า ความแตกต่างเมื่อลูกค้าสงสัยว่าสินค้าของเราต่างจากคู่แข่งอย่างไร เปรียบเทียบให้เห็นชัด เช่น ฟังก์ชันพิเศษ, ความคุ้มค่า หรือบริการหลังการขาย เน้นจุดเด่นที่คู่แข่งไม่มี โดยไม่โจมตีคู่แข่ง เวลาบางครั้งลูกค้าให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการใช้งานหรือการจัดส่ง ระบุเวลาที่แน่นอน เช่น ระยะเวลาจัดส่งหรือการติดตั้ง ยกตัวอย่างการประหยัดเวลาเมื่อใช้สินค้า เช่น ลดขั้นตอน, ทำงานเร็วขึ้น…
-
ขั้นตอนหาลูกค้าใหม่
5 ขั้นตอนหาลูกค้าใหม่แบบได้ผล คัดกรองลูกค้า – ค้นหาลูกค้าที่ “ใช่” โดยดูจากพฤติกรรมซื้อซ้ำและปัญหาที่สินค้าของเราช่วยแก้ไขได้ สื่อสารเจาะจง – ส่งข้อความที่เฉพาะเจาะจงและตรงกับปัญหาของลูกค้า แสดงให้เห็นว่าเราเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือ ติดต่อหลายช่องทาง – ใช้อีเมล โทรศัพท์ ไลน์หรือช่องทางที่ลูกค้าสะดวก เพื่อให้การสื่อสารเข้าถึงง่ายและไม่อึดอัด ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ – ติดตามลูกค้าอย่างมีวินัยมากกว่า 2 ครั้ง แสดงความใส่ใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ประเมินและปรับปรุง – ติดตามผลการขาย ปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลจริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขาย ใช้ขั้นตอนนี้เพื่อให้การหาลูกค้าใหม่ให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และน่าทำยิ่งขึ้น รายการพูดจาภาษานักขาย รายการพูดจาภาษนักขาย : EP.10 : ทักษะที่ TOP SALE ทุกคนต้องมี รายการพูดจาภาษานักขาย : EP.11 : 6 ขั้นตอนสู่การเป็นนักขายที่ขายเกินเป้า รายการพูดจาภาษนักขาย : EP.12 : วิธีเพิ่มความมั่นใจ เชื่อว่า เราทำได้ สำหรับนักขายมือใหม่ รายการพูดจาภาษานักขาย :…
-
ค้นหาปัญหาลูกค้า
ชุดคำถามเพื่อค้นหาปัญหาลูกค้า ลูกค้าบอกดี แต่ขออ่านศึกษาดูก่อน วิธีรับมือเมื่อปิดการขายไม่ลง และลูกค้าบอกว่าขอศึกษาดูก่อน เมื่อเจอข้อโต้แย้งแบบนี้ อาจเกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก: ลูกค้ายังไม่เข้าใจคุณค่าของสินค้า นักขายอาจยังไม่สามารถอธิบายสินค้าให้ลูกค้าเห็นถึงคุณค่าหรือความแตกต่างที่น่าสนใจ ลูกค้าไม่รู้สึกถึงความเร่งด่วน ลูกค้าอาจมองว่าสินค้าไม่มีความสำคัญเร่งด่วน จึงตัดสินใจเลื่อนไป วิธีแก้ไข ตั้งคำถามเพื่อค้นหาประเด็นที่แท้จริง ถามลูกค้ากลับอย่างสุภาพ เช่น: “คุณลูกค้าบอกว่าขอศึกษาดูก่อน ไม่ทราบว่ามีประเด็นไหนที่ยังไม่ชัดเจน หรือจุดไหนที่อยากให้ผมอธิบายเพิ่มเติมครับ?” “ถ้าสมมุติวันนี้พี่ต้องกลับไปคิดดู ไม่ทราบว่าจะไปศึกษาประเด็นใดเพิ่มเติมครับ?” คำถามเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าเปิดเผยสิ่งที่ยังค้างคาใจ ช่วยอธิบายและเคลียร์ข้อสงสัยทันที เมื่อลูกค้าบอกจุดที่ยังไม่เข้าใจ ให้เน้นการอธิบายเพิ่มเติมด้วยตัวอย่างหรือข้อมูลที่ชัดเจน สร้างความเร่งด่วนอย่างจริงใจ ถามลูกค้าเพิ่มเติมว่า: “ในกรณีนี้ พี่คิดว่ามีใครอีกที่ต้องปรึกษาหรือพิจารณาก่อนการตัดสินใจครับ?” “ถ้าเราแก้ไขประเด็นนี้ได้ตอนนี้ จะช่วยให้พี่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นไหมครับ?” วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ถึงความพร้อมของเราในการช่วยแก้ปัญหา แสดงความเป็นมืออาชีพ อย่ากดดันลูกค้าเกินไป แต่แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสนับสนุน ใช้น้ำเสียงที่จริงใจและไม่เร่งรัด เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะเปิดใจ เคล็ดลับ:คำพูดที่ว่า “ขอศึกษาดูก่อน” มักเป็นข้ออ้างปฏิเสธที่ไม่ตรงไปตรงมา หากเราถามคำถามและสร้างความไว้วางใจได้ ลูกค้าจะเปิดใจบอกปัญหาที่แท้จริง ทำให้มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น! คำถามที่ช่วยให้เราเข้าใจลูกค้า แก้ปัญหาได้ตรงจุด **การเข้าใจ Pain Points ของลูกค้า** – **คำถาม:** “ธุรกิจของคุณมีความท้าทายอะไรบ้างในตอนนี้?” –…
Got any book recommendations?