12 เคล็ดลับการเจรจา

12 เคล็ดลับการเจรจา ที่จะทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมืออาชีพ

หนังสือ จิตวิทยาต่อรอง จะต้องพูดและทำอะไรในการต่อรองที่แพ้ไม่ได้

  1. ฟังอย่างตั้งใจ
    ฟังให้มากกว่าพูด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อใจ การสะท้อนคำพูดและอารมณ์ของคู่สนทนาให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจจริงๆ ช่วยเสริมความสัมพันธ์ในการเจรจา
  2. ทำให้คู่เจรจารู้สึกว่าพวกเขาชนะ
    ให้คู่สนทนารู้สึกว่าพวกเขาควบคุมสถานการณ์ แม้ว่าคุณจะวางแผนมาแล้วก็ตาม การให้ความรู้สึกนี้จะทำให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีต่อการเจรจา
  3. ใช้ Mirroring
    การพูดซ้ำคำสำคัญหรือประโยคสุดท้ายของคู่สนทนา ช่วยกระตุ้นให้พวกเขาขยายความและรู้สึกว่าคุณใส่ใจและเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด
  4. ตั้งคำถามที่ทำให้คู่สนทนาทบทวน
    ใช้คำถามประเภท “How” และ “What” เพื่อให้คู่สนทนาอธิบายแผนหรือความคิดของตนเอง ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา
  5. สร้างการเริ่มต้นจากคำว่า “ไม่”
    ทำให้ห้คู่สนทนาตอบว่า “ไม่” ในช่วงแรกจะช่วยลดความกดดัน และมีข้อเสนอเป็นทางเลือก ให้เขารู้สึกว่า มีอิสระในการตัดสินใจ
  6. ติดตามอารมณ์ของลูกค้า(Empathy)
    พูดถึงอารมณ์หรือความรู้สึกที่คู่สนทนากำลังประสบ เช่น “คุณคงรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้” การแสดงความเข้าใจในอารมณ์ จะช่วยเสริมความสัมพันธ์
  7. อย่ามองการต่อรองเป็นแค่การแพ้-ชนะ
    การเจรจาที่ดีควรมุ่งไปที่ผลลัพธ์ ที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ ไม่ใช่การเอาชนะฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการหาข้อตกลงที่ทุกคนยอมรับได้
  8. ใช้ “Late-Night FM DJ Voice”
    ใช้เสียงที่สงบและมั่นคงในการพูด เพื่อควบคุมอารมณ์และทิศทางของการสนทนา ทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ตึงเครียด
  9. ไม่ต้องรีบปิดดีล
    อย่ากดดัน เร่งรีบให้ตัดสินใจ ให้เวลาในการพิจารณาทางเลือกต่างๆ อย่างละเอียดและมั่นใจว่าลูกค้าเป็นผู้เลือกและได้เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด
  10. ใช้ความเงียบให้เป็นประโยชน์
    ความเงียบเป็นเครื่องมือทรงพลังในการเจรจา ช่วยให้คู่สนทนารู้สึกกดดันและยอมเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม
  11. การเจรจาต้องมีเป้าหมาย
    เข้าใจอย่างชัดเจนว่าคุณต้องการอะไร จากการเจรจา อย่าหลงไปกับข้อเสนอที่ไม่ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้
  12. พลังของคำว่า “ยุติธรรม”
    คำว่า “ยุติธรรม” เป็นคำที่มีพลังในการเจรจา ใช้คำนี้เพื่อกระตุ้นให้ คู่เจรจาคิดและหาคำตอบที่แท้จริงในใจของพวกเขา

4 เคล็ดลับในการเจรจาต่อรอง

  • หัวใจสำคัญที่สุดของผู้นำ คือต้องเป็นคนไปเจรจา ซื้อขาย ตกลง เพื่อให้เห็นว่า คุณให้ความสำคัญกับข้อตกลงทางธุรกิจนี้ และคุณจะทำทุกอย่างอะไรก็ได้ เพื่อให้ได้ข้อตกลงทางธุรกิจนี้มาให้ได้  นี่คือ 4 เคล็ดลับในการเจรจาต่อรอง ให้ประสบความสำเร็จสามารถนำไปปรับใช้ได้ในการเจรจา
  1. เอาเรื่องส่วนตัวออกจากการเจรจา
    เมื่อเริ่มต้นการเจรจา เราควรหลีกเลี่ยงการนำผลประโยชน์ส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องพยายามแยกแยะและโฟกัสไปที่หลักการและผลประโยชน์ร่วมกันที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับได้ การเจรจากับคนที่ไม่ชอบหรือเห็นต่างอาจทำให้ยากขึ้น แต่ถ้าเรามองที่หลักการและผลประโยชน์ร่วมจะช่วยให้การเจรจาง่ายขึ้นและสามารถหาข้อตกลงที่ดีได้
  2. ฟังมากกว่าพูด
    การฟังเป็นกุญแจสำคัญในการเจรจาต่อรอง เพราะเราจะได้ข้อมูลและเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย การเจรจาแบ่งออกเป็นสองมุมคือ “Position” ซึ่งคือข้อเรียกร้องที่เห็นชัดและ “Interest” ที่เป็นสิ่งที่เขาต้องการจริงๆ แต่ไม่ได้บอกออกมา การฟังทั้งคำพูด อากัปกริยา และน้ำเสียง จะช่วยให้เราค้นหาความต้องการที่แท้จริงและเจรจาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขร่วมกัน
    ก่อนที่จะเริ่มการเจรจาหรือเสนอทางออกใดๆ ควรกำหนดหลักเกณฑ์ที่ทั้งสองฝ่ายสามารถยอมรับได้ เช่น การหาความต้องการที่แท้จริงของอีกฝ่าย และตกลงในเงื่อนไขที่ทำให้ทุกฝ่ายพอใจ การทำเช่นนี้จะช่วยให้การหาทางออกหรือข้อเสนอเป็นไปในทิศทางที่ทุกคนเห็นชอบ
  4. สร้างทางเลือกที่หลากหลาย
    มนุษย์ชอบมีทางเลือกในการตัดสินใจ ดังนั้น การเสนอหลายๆ ทางเลือกที่ตรงกับเงื่อนไขและความต้องการของทั้งสองฝ่ายจะช่วยให้การเจรจาเป็นไปได้ง่ายขึ้น เมื่อฝ่ายตรงข้ามรู้สึกว่าเป็นผู้เลือกเอง พวกเขาจะรู้สึกว่ามีอิสระในการตัดสินใจและมักจะยอมรับข้อเสนอได้ง่ายขึ้น

การเจรจาต่อรองที่ดีไม่ใช่แค่การพูดและยืนยันความคิดเห็นของตนเอง แต่ต้องมีความสามารถในการฟังและหาทางเลือกที่เหมาะสมเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับทุกฝ่าย

เทคนิคหลอกสมอง

ข้อคิดจากหนังสือเทคนิคหลอกสมองให้เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่

  1. เราเป็นผลลัพธ์จากอดีต
    ทุกวันนี้ เราเป็นแบบนี้ เพราะการกระทำในอดีตที่เราสั่งสมมา หากเราอยากเปลี่ยนแปลง ต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรม ตั้งแต่ตอนนี้
  2. การเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ
    ถ้าเราต้องการเปลี่ยนตัวเอง เช่น อยากอ่านหนังสือเพื่อพัฒนาตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการอ่านเยอะ ๆ แค่สองสามหน้าต่อวันก็พอ สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงเราไปทีละนิด
  3. การคิดจะเปลี่ยนชีวิต เริ่มเปลี่ยนทันที
    เพียงแค่เราคิดว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง ชีวิตของเราก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้วในทันที
  4. อดีตไม่ใช่สิ่งที่บังคับอนาคต
    บางอย่างที่เราเคยทำไม่ได้ในอดีต ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำไม่ได้ในปัจจุบัน อย่าปล่อยให้ความทรงจำเก่า ๆ มาบั่นทอน ลองทำใหม่ดูเถอะ
  5. การเปลี่ยนแปลงต้องหลีกเลี่ยง สิ่งที่ทำให้เราเป็นแบบเดิม
    หากเราต้องการเลิกพฤติกรรมไม่ดี เช่น การลดน้ำหนัก ลองหลีกเลี่ยงการเดินผ่านชั้นขนมในห้างสรรพสินค้า สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้จะช่วยให้เราควบคุมตัวเองได้มากขึ้น
  6. การพัฒนาตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก
    การทำสิ่งที่ดีเพื่อพัฒนาตัวเอง เช่น การอ่านหนังสือหรือการจดบันทึก เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถทำได้ แต่ต้องทำมันให้ต่อเนื่อง
  7. ภาพตัวเองในอนาคตช่วยเพิ่มแรงฮึด
    การจินตนาการถึงตัวเองในอนาคต เมื่อเราประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นในการทำตามเป้าหมายของเรา
  8. รู้จักข้อดีข้อเสียของตัวเอง
    ลองเขียนออกมาว่าเรามีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง สิ่งนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าเราต้องแก้ไขจุดไหนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย
  9. ทำเพื่ออะไร
    คำถามสำคัญคือ เราทำสิ่งนี้ไปทำไม? เมื่อเราหาคำตอบได้ การตอบตัวเองจะเป็นพลังที่ช่วยให้เราทำกิจวัตรได้ต่อเนื่อง
  10. ตั้งเป้าหมายเพื่อคนอื่น
    เรามักจะพยายามมากขึ้นเมื่อเป้าหมายของเราเกี่ยวข้องกับคนอื่น การตั้งเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือคนอื่นสามารถเป็นแรงผลักดันที่ใหญ่ได้
  11. พูด “ฉันทำได้” อย่างมั่นใจ
    พูดออกมาว่า “ฉันทำได้” แม้จะไม่รู้สึกแบบนั้นในตอนแรก แต่เมื่อพูดบ่อย ๆ สมองจะเริ่มเชื่อและช่วยให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น
  12. จดบันทึกสิ่งดี ๆ ในชีวิต
    ลองจดบันทึกความสุขและความดีใจที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน สิ่งนี้จะช่วยให้เรามองเห็นแง่ดีในชีวิตได้มากขึ้น
  13. ขอบคุณในทุกวัน
    การพูดคำว่า “ขอบคุณ” จะช่วยให้เรามีจิตใจที่เปิดกว้างและมองเห็นสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิตมากขึ้น

ความเชื่อคนส่วนใหญ่

หลายคนมักมองว่า การใช้โปรแกรมสำหรับออกใบเสร็จเพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ในช่วงแรก เพราะยังมีลูกค้าน้อยอยู่ ซึ่งความคิดนี้อาจจะดูเหมือนถูกต้องในตอนแรก แต่จริงๆ แล้ว การเริ่มใช้โปรแกรมตั้งแต่ช่วงแรก จะช่วยให้คุณมีเวลาเรียนรู้และทำความเข้าใจระบบได้ดีขึ้น เมื่อจำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นในอนาคต จะทำให้การทำงานราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ต้องมาคิดเรื่องการปรับตัวในขณะนั้นที่อาจจะยุ่งยากกว่า

ถ้ารอให้ลูกค้าเยอะก่อน แล้วค่อยใช้โปรแกรม มักจะพบว่าเมื่อมีลูกค้ามากแล้ว เราจะไม่มีเวลามาเรียนรู้การใช้งานโปรแกรม ทำให้ไม่สามารถเห็นความสำคัญของการใช้โปรแกรม ซึ่งอาจส่งผลให้การทำงานล่าช้า และมีประสิทธิภาพต่ำลง เนื่องจากยังคงใช้ระบบเดิมที่คุ้นเคยอยู่

นอกจากนี้ การไม่มีโปรแกรมในการช่วยค้นหาข้อมูลลูกค้าเมื่อจำเป็น ก็จะทำให้การตัดสินใจแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างไม่สะดวก และเสียเวลามาก การใช้พลังงานในแต่ละวันของเราควรจะถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า หากต้องใช้พลังงานในการจัดการสิ่งต่างๆ แบบเดิมๆ โดยที่ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเสียเวลามาก ก็เท่ากับสูญเสียโอกาสในการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้

การใช้โปรแกรมตั้งแต่ต้นจึงเป็นการลงทุนในระบบ ที่ช่วยอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในระยะยาว

ผู้ชนะคือคนที่ยืนหยัด

ผู้ชนะคือคนที่ยืนหยัด แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบาก ความกลัวและความกังวล ทำให้เรารู้สึกอยากล้มเลิกกับการเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ  ความรู้สึกนั้นเป็นแค่จินตนาการของเราว่า มันควรจะง่ายกว่านี้ เร็วกว่านี้ หรือดีกว่านี้ เราคิดขึ้นมาเองทั้งนั้นเลย คนที่ยอมแพ้จะไม่มีวันพบกับความสำเร็จ ความรู้สึกล้มเหลวจะติดตัวเขาไปตลอด เราต้องเลิกความคิดเรื่องการยอมแพ้ออกจากหัวให้หมด เพราะมันคือกับดัก ที่จะขัดขวางเรา ไม่ให้เราเป็นคนที่คิดอยากจะเป็นในอนาคต การอยากยอมแพ้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญเมื่อเจออุปสรรค เป็นเรื่องปกติของคน  แต่สิ่งที่เราต้องแลกกับความสำเร็จคือความทรหดอดทน เพื่อจะก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้ เมื่อเราเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานหรือธุรกิจ เราก็จะรู้สึกตื่นเต้นและคาดหวังว่า ทุกอย่างจะไปได้ดี แต่บางครั้งสิ่งที่เราคิด อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง เมื่อภาพความหวังเริ่มเลือนหายไป สิ่งที่เห็นคือภาพจริงเราที่ต้องเผชิญ เราต้องทำใจและรีบก้าวผ่านช่วงนี้ไปให้ได้ เราต้องขจัดความกลัวและความกังวล แล้วก็คิดหาวิธีแก้ปัญหา ซึ่งทุกๆครั้งที่เรารู้สึกอยากยอมแพ้ ให้เราคิดเลยว่าเราจะต้องกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ตั้งแต่แรกเลย เราจะเห็นเลยว่า ทุกๆ เนื้องาน ทุกๆ สิ่งใหม่ที่เราเริ่มต้น ก็มักจะมีอุปสรรค ทำให้เรารู้สึกอยากยอมแพ้ 

ตัวอย่าง เรื่องราวของเมียร์แคตที่อาศัยอยู่ใต้ดิน สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานและการเริ่มต้นใหม่ๆ ในชีวิต เมียร์แคต กลุ่มหนึ่งได้ยินข่าวลือว่าพื้นผิวโลกสวยงาม จึงส่งตัวที่ 1 ขึ้นไปสำรวจ ซึ่งเป็นฤดูหนาว พอมันโผล่หัวจากรู มันเจอกับพายุหิมะและความหนาวเย็นพัดใส่หน้า มันจึงรีบกลับมาแจ้งเพื่อนๆว่า ไม่ควรขึ้นไป แต่พอฤดูร้อนมาถึง เมียร์แคตตัวที่ 2 ขึ้นไป พอมันโผล่หัวขึ้นจากรู ก็พบแสงแดดอันอบอุ่นและความสวยงาม ตามที่เคยได้ยินมา สุดท้ายพวกมันประชุมแล้วตัดสินใจอยู่ใต้ดินเหมือนเดิม เพราะพวกมันคิดว่า ข้างบนอันตรายเกินไปสำหรับพวกมัน เปรียบเหมือนการทำงานของเรา ที่มีทั้งฤดูร้อนและฤดูหนาว บางช่วงอาจจะราบรื่น แต่บางช่วงก็เต็มไปด้วยอุปสรรค คนที่ประสบความสำเร็จรู้ดีว่า ไม่มีฤดูใดจะอยู่กับเราตลอดไป การเข้าใจและยอมรับความเปลี่ยนแปลง จะช่วยให้เราผ่านไปได้ อย่ากลัวหรือหลีกเลี่ยงปัญหา  แต่หาวิธีปรับตัวให้ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลา การยอมแพ้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ขาดเป้าหมายที่ชัดเจน  ขาดวิธีการที่ดี  ไม่สร้างแวดล้อมที่ดี หรืออื่นๆ ทำให้เราไม่กล้าเผชิญหน้ากับอุปสรรค การอยู่กับคนที่ประสบความสำเร็จ อ่านหนังสือดีๆ  ฟังคลิปดีๆ  ก็จะช่วยให้เรารู้สึกอยากกลับมาสู้ใหม่ เมื่อเราคิดที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง เราไม่จำเป็นต้องรอให้ทุกอย่างพร้อมหรือสมบูรณ์แบบ เราสามารถลงมือทำได้เลย เช่น มีหลายบริษัท ที่เริ่มต้นด้วยโครงการ โดยที่ไม่สมบูรณ์ แต่พวกเขาก็แก้ไขและปรับปรุง จึงพบกลยุทธ์ที่สร้างความสำเร็จขี้นมาได้  หนึ่งในวิธีที่จะทำให้เราทำงานได้ราบรื่น คือการสร้าง “โมเมนตัม” ในการทำงาน เหมือนกับรถไฟที่วิ่งความเร็ว 200 กม./ชม.  แม้จะมีกำแพงขวางกั้น มันก็จะทะลุกำแพงไปได้ หากเราสร้างโมเมนตัมในการทำงาน มันจะทำให้เรามีความต่อเนื่องในการทำงาน ตัวอย่าง บริษัทแห่งหนึ่งลงทุนเงินเยอะมาก ในการทำแคมเปญโฆษณา หลังจากนั้น พอแคมเปญโฆษณาออกไปแล้ว บริษัทมีกำไรมากมาย แล้วยอดขายก็ยังเติบโตต่อเนื่องทะลุเป้าไปแล้ว แต่หลังจากนั้นเนี่ย ก็มีคนถามกับประธานบริษัทว่า “ไหนๆยอดขายก็บรรลุเป้าไปแล้ว แล้วยอดขายก็ได้เกินเป้าหมายไปแล้วเนี่ย ทำไมถึงยังคงโฆษณาต่อเนื่องอีก และก็ยังออกแคมเปญโฆษณาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอยู่” ประธานบริษัทตอบกลับมาได้อย่างดีเลยว่า “ลองจินตนาการ เหมือนเวลาที่เครื่องบินออกตัวไป   ต้องใช้พละกำลังอย่างมาก กว่าเครื่องบินจะขึ้นได้  แต่หลังจากที่เครื่องบิน บินอยู่บนท้องฟ้า บินอย่างสบายๆ อยู่  ถ้าเป็นคุณ คุณจะดับเครื่องตอนนี้หรอ”  ก็เป็นคำถามที่ชวนคิดเลยว่า จริงๆ  หากทำดีมาแล้ว มีผลกำไรเกินคาดแล้ว ยอดทะลุเป้าที่ตั้งไว้แล้ว ก็ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องหยุดหรือล้มเลิก แต่ก็ยังคงทำต่อไป เพื่อให้มันดีขึ้นและก็ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ได้อีก

สอบถามปัญหา
ส่งข้อความสอบถามด้านล่าง

ที่อยู่ :

139 ม.5 ต.นาโพธิ์ อ.กุดรัง จ.มหาสารคาม 44130
Tel: 094-952-9562 Line id: 9562opad