Author: admin
-
ทุกบริษัท
เลือกหัวข้อหหนังสือ 12 เคล็ดลับการเจรจาความเชื่อคนส่วนใหญ่ 4 เคล็ดลับการต่อรองเทคนิคหลอกสมองผู้ชนะคือผู้ที่ยืนหยัด 12 เคล็ดลับการเจรจา 12 เคล็ดลับการเจรจา ที่จะทำให้ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมืออาชีพ หนังสือ จิตวิทยาต่อรอง จะต้องพูดและทำอะไรในการต่อรองที่แพ้ไม่ได้ ฟังอย่างตั้งใจฟังให้มากกว่าพูด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความเชื่อใจ การสะท้อนคำพูดและอารมณ์ของคู่สนทนาให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจจริงๆ ช่วยเสริมความสัมพันธ์ในการเจรจา ทำให้คู่เจรจารู้สึกว่าพวกเขาชนะให้คู่สนทนารู้สึกว่าพวกเขาควบคุมสถานการณ์ แม้ว่าคุณจะวางแผนมาแล้วก็ตาม การให้ความรู้สึกนี้จะทำให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีต่อการเจรจา ใช้ Mirroringการพูดซ้ำคำสำคัญหรือประโยคสุดท้ายของคู่สนทนา ช่วยกระตุ้นให้พวกเขาขยายความและรู้สึกว่าคุณใส่ใจและเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาพูด ตั้งคำถามที่ทำให้คู่สนทนาทบทวนใช้คำถามประเภท “How” และ “What” เพื่อให้คู่สนทนาอธิบายแผนหรือความคิดของตนเอง ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา สร้างการเริ่มต้นจากคำว่า “ไม่”ทำให้ห้คู่สนทนาตอบว่า “ไม่” ในช่วงแรกจะช่วยลดความกดดัน และมีข้อเสนอเป็นทางเลือก ให้เขารู้สึกว่า มีอิสระในการตัดสินใจ ติดตามอารมณ์ของลูกค้า(Empathy)พูดถึงอารมณ์หรือความรู้สึกที่คู่สนทนากำลังประสบ เช่น “คุณคงรู้สึกกังวลกับเรื่องนี้” การแสดงความเข้าใจในอารมณ์ จะช่วยเสริมความสัมพันธ์ อย่ามองการต่อรองเป็นแค่การแพ้-ชนะการเจรจาที่ดีควรมุ่งไปที่ผลลัพธ์ ที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ ไม่ใช่การเอาชนะฝ่ายตรงข้าม แต่เป็นการหาข้อตกลงที่ทุกคนยอมรับได้ ใช้ “Late-Night FM DJ Voice”ใช้เสียงที่สงบและมั่นคงในการพูด เพื่อควบคุมอารมณ์และทิศทางของการสนทนา ทำให้การเจรจาเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่ตึงเครียด ไม่ต้องรีบปิดดีลอย่ากดดัน เร่งรีบให้ตัดสินใจ ให้เวลาในการพิจารณาทางเลือกต่างๆ…
-
ฝึกการขาย
คุณฝึกการขายได้จากที่ไหนได้บ้าง นักขายที่ประสบความสำเร็จ นักขายที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งไม่ได้มาจากพรสวรรค์ แต่เกิดจาก “พรแสวง” หรือความพยายามและการฝึกฝนอย่างมีวินัย เซลล์หลายคนเคยเป็นนักขายที่ไม่เก่ง แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการฝึกซ้อม จึงสามารถพัฒนาตนเองได้ เช่น คริสเตียโน โรนัลโด้ และเขาทราย แกแล็กซี่ ที่ใช้ความพยายามจนก้าวสู่ความสำเร็จ ฝึกซ้อมบุคลิกภาพที่ดีในชีวิตประจำวันและวัดผลทุกวัน ถ้าบุคลิกภาพรวมๆ คุณยังดูไม่ดีพอ วิธีง่ายๆ คือการฝึกซ้อมให้ตัวเองทำอะไร “ให้ช้าลง” เคล็ดลับนี้จะช่วยให้บุคลิกภาพโดยรวมของคุณดูดีขึ้น เช่น คุณพูดกับเพื่อนร่วมงานช้าลง ใช้น้ำเสียงที่ทุ้มลงมา ขยับมือ ขยับตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดิน การนั่ง การใช้ภาษามือ การพูด ถ้าจะให้เห็นภาพง่ายคือ เลียนแบบ บุคลิก ท่าทาง ของตัวละครที่คุณชื่นชอบ เช่น เจมส์ บอนด์ 007 เดอะก็อดฟาเธอร์ เป็นต้น จากนั้นก็ลองประเมินว่าเมื่อวานกับวันนี้ มีผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทำไปเรื่อยๆ แล้วบุคลิกภาพของคุณนั้นดีขึ้นมาก ฝึกซ้อมการโทรทำนัดลูกค้าและวัดผลเป็นประจำทุกวัน ประตูบานแรกของการขาย B2B โดยที่คุณไม่รู้จักใครหรือไม่มีคอนเนคชั่นใดๆ ก็คือการโทรทำนัด Cold Call ซึ่งคุณต้องเปิดใจรับมันและทนกับแรงกดดันเรื่องของการโดนปฎิเสธให้ได้…
-
คำถามที่ควรถามลูกค้า
14 คำถามที่ควรถามลูกค้า ความท้าทายของธุรกิจ: อะไรคือความท้าทายในธุรกิจสถานตรวจสภาพรถของลูกค้า? ความสำคัญของโปรแกรม: ฟีเจอร์อะไรในโปรแกรมที่ลูกค้าต้องการให้มีเป็นอันดับแรก? ความแตกต่างจากระบบเดิม: อะไรคือความแตกต่างระหว่างการออกใบเสร็จด้วยมือและการใช้โปรแกรมนี้? ขั้นตอนปัจจุบัน: อธิบายขั้นตอนการทำงานปัจจุบันว่ามีความสะดวกหรือติดปัญหาตรงไหน? อุปสรรคในการเติบโต: อะไรคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจลูกค้าไม่เติบโตตามที่คาดหวัง? ประเมินประสิทธิภาพ: ลูกค้าวัดประสิทธิภาพอย่างไร และอยากให้โปรแกรมแก้ปัญหาในส่วนใด? ข้อกังวลการซื้อ: ส่วนไหนที่ลูกค้ายังกังวลในการตัดสินใจซื้อครั้งนี้? ข้อสงสัยในสินค้า: ลูกค้ามีข้อสงสัยหรือไม่มั่นใจในส่วนใดของผลิตภัณฑ์? เวลาในการออกใบเสร็จ: ลูกค้าใช้เวลากี่นาทีในการออกใบเสร็จด้วยมือ? จุดชอบ-ไม่ชอบ: อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าชอบและไม่ชอบในโปรแกรม? ข้อเสนอแนะการปรับปรุง: ลูกค้าอยากให้เราเปลี่ยนหรือแก้ไขส่วนไหนในโปรแกรม? ความคาดหวังจากผลิตภัณฑ์: ลูกค้าคาดหวังว่าโปรแกรมจะช่วยงานในส่วนไหนเป็นพิเศษ? กระบวนการตัดสินใจซื้อ: ลูกค้ามีกระบวนการอย่างไรในการตัดสินใจซื้อโปรแกรมนี้? ความไม่มั่นใจสุดท้าย: อะไรทำให้ลูกค้ายังกังวลและไม่มั่นใจในโปรแกรม? ตัวอย่างบทสนทนา: นักขาย: “ปัจจุบันคุณใช้โปรแกรมอะไรในการจัดการเอกสารบ้างครับ?” ลูกค้า: “ผมใช้ Excel ครับ แต่ก็ยังรู้สึกว่าไม่สะดวกเท่าไหร่”นักขาย: “คุณเคยประสบปัญหาในการค้นหาเอกสารที่ต้องการไหมครับ?” ลูกค้า: “ใช่ครับ บางทีก็หาไม่เจอ ทำให้เสียเวลาในการทำงาน”นักขาย: “ปัญหาในการค้นหาเอกสารทำให้เสียเวลาในการทำงานไปมากน้อยแค่ไหนครับ?” ลูกค้า: “เยอะมากครับ บางทีก็ต้องใช้เวลาทั้งวันในการค้นหาเอกสารสำคัญ”นักขาย: “ถ้ามีระบบที่ช่วยให้คุณค้นหาเอกสารได้รวดเร็วขึ้น คุณจะสามารถประหยัดเวลาไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้นไหมครับ?”ลูกค้า: “ได้แน่นอนครับ ผมจะได้มีเวลาไปโฟกัสงานที่สำคัญกว่า” วิธีแสดงความเข้าใจถึงความรู้สึกลูกค้า นักขาย: “ตอนฟังเรื่องนี้ครั้งแรก…
-
การปิดการขาย
ขั้นตอนการปิดการขาย เทคนิคการตอบคำถามให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น เทคนิคการตอบคำถามลูกค้าให้ปิดการขายได้ง่ายขึ้น (คลิป) ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าใดๆ ตามธรรมชาติแล้วพวกเขามักมีข้อสงสัยในหลายประเด็น เช่น คุณภาพสินค้า, การบริการ, ราคาคุ้มค่า และ ความแตกต่าง ระหว่างสินค้าแต่ละยี่ห้อ การตอบคำถามลูกค้าให้ตรงจุดจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้ง่ายขึ้น หลักการตอบคำถามลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งข้อสงสัยในใจคิดไว้เสมอว่าทำไมลูกค้าถึงต้องซื้อสินค้าจากเรา ไม่ใช่เพียงแค่บอกว่าสินค้าของเราดี แต่ต้องตอบคำถามที่ตรงกับความกังวลหรือความต้องการของลูกค้า เตรียมคำตอบล่วงหน้ารวบรวมคำถามหรือข้อโต้แย้งที่ลูกค้าถามบ่อย เช่น คุณภาพ, ความคุ้มค่า, การบริการ, หรือเปรียบเทียบกับคู่แข่ง และเตรียมคำตอบที่ชัดเจน เข้าใจง่าย ตอบตรงจุดอย่าพยายามอธิบายเรื่องที่ลูกค้าไม่ได้ถาม เช่น การอธิบายสเปคสินค้าในเชิงลึก หากไม่เกี่ยวข้องกับความกังวลของลูกค้า 4 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยปิดการขายได้ง่าย คุณภาพลูกค้ามักสงสัยว่าสินค้าดีจริงหรือไม่ และเหมาะสมกับการใช้งานของเขาหรือเปล่า อธิบายจุดเด่นด้านคุณภาพอย่างตรงประเด็น ใช้ตัวอย่างหรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริง ยืนยันความน่าเชื่อถือ เช่น การรับประกันสินค้า ความแตกต่างเมื่อลูกค้าสงสัยว่าสินค้าของเราต่างจากคู่แข่งอย่างไร เปรียบเทียบให้เห็นชัด เช่น ฟังก์ชันพิเศษ, ความคุ้มค่า หรือบริการหลังการขาย เน้นจุดเด่นที่คู่แข่งไม่มี โดยไม่โจมตีคู่แข่ง เวลาบางครั้งลูกค้าให้ความสำคัญกับความรวดเร็วในการใช้งานหรือการจัดส่ง ระบุเวลาที่แน่นอน เช่น ระยะเวลาจัดส่งหรือการติดตั้ง ยกตัวอย่างการประหยัดเวลาเมื่อใช้สินค้า เช่น ลดขั้นตอน, ทำงานเร็วขึ้น…
-
ขั้นตอนหาลูกค้าใหม่
5 ขั้นตอนหาลูกค้าใหม่แบบได้ผล คัดกรองลูกค้า – ค้นหาลูกค้าที่ “ใช่” โดยดูจากพฤติกรรมซื้อซ้ำและปัญหาที่สินค้าของเราช่วยแก้ไขได้ สื่อสารเจาะจง – ส่งข้อความที่เฉพาะเจาะจงและตรงกับปัญหาของลูกค้า แสดงให้เห็นว่าเราเข้าใจและพร้อมช่วยเหลือ ติดต่อหลายช่องทาง – ใช้อีเมล โทรศัพท์ ไลน์หรือช่องทางที่ลูกค้าสะดวก เพื่อให้การสื่อสารเข้าถึงง่ายและไม่อึดอัด ติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ – ติดตามลูกค้าอย่างมีวินัยมากกว่า 2 ครั้ง แสดงความใส่ใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ประเมินและปรับปรุง – ติดตามผลการขาย ปรับกลยุทธ์ตามข้อมูลจริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปิดการขาย ใช้ขั้นตอนนี้เพื่อให้การหาลูกค้าใหม่ให้มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และน่าทำยิ่งขึ้น รายการพูดจาภาษานักขาย รายการพูดจาภาษนักขาย : EP.10 : ทักษะที่ TOP SALE ทุกคนต้องมี รายการพูดจาภาษานักขาย : EP.11 : 6 ขั้นตอนสู่การเป็นนักขายที่ขายเกินเป้า รายการพูดจาภาษนักขาย : EP.12 : วิธีเพิ่มความมั่นใจ เชื่อว่า เราทำได้ สำหรับนักขายมือใหม่ รายการพูดจาภาษานักขาย :…
-
ค้นหาปัญหาลูกค้า
ชุดคำถามเพื่อค้นหาปัญหาลูกค้า ลูกค้าบอกดี แต่ขออ่านศึกษาดูก่อน วิธีรับมือเมื่อปิดการขายไม่ลง และลูกค้าบอกว่าขอศึกษาดูก่อน เมื่อเจอข้อโต้แย้งแบบนี้ อาจเกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก: ลูกค้ายังไม่เข้าใจคุณค่าของสินค้า นักขายอาจยังไม่สามารถอธิบายสินค้าให้ลูกค้าเห็นถึงคุณค่าหรือความแตกต่างที่น่าสนใจ ลูกค้าไม่รู้สึกถึงความเร่งด่วน ลูกค้าอาจมองว่าสินค้าไม่มีความสำคัญเร่งด่วน จึงตัดสินใจเลื่อนไป วิธีแก้ไข ตั้งคำถามเพื่อค้นหาประเด็นที่แท้จริง ถามลูกค้ากลับอย่างสุภาพ เช่น: “คุณลูกค้าบอกว่าขอศึกษาดูก่อน ไม่ทราบว่ามีประเด็นไหนที่ยังไม่ชัดเจน หรือจุดไหนที่อยากให้ผมอธิบายเพิ่มเติมครับ?” “ถ้าสมมุติวันนี้พี่ต้องกลับไปคิดดู ไม่ทราบว่าจะไปศึกษาประเด็นใดเพิ่มเติมครับ?” คำถามเหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าเปิดเผยสิ่งที่ยังค้างคาใจ ช่วยอธิบายและเคลียร์ข้อสงสัยทันที เมื่อลูกค้าบอกจุดที่ยังไม่เข้าใจ ให้เน้นการอธิบายเพิ่มเติมด้วยตัวอย่างหรือข้อมูลที่ชัดเจน สร้างความเร่งด่วนอย่างจริงใจ ถามลูกค้าเพิ่มเติมว่า: “ในกรณีนี้ พี่คิดว่ามีใครอีกที่ต้องปรึกษาหรือพิจารณาก่อนการตัดสินใจครับ?” “ถ้าเราแก้ไขประเด็นนี้ได้ตอนนี้ จะช่วยให้พี่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นไหมครับ?” วิธีนี้ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ถึงความพร้อมของเราในการช่วยแก้ปัญหา แสดงความเป็นมืออาชีพ อย่ากดดันลูกค้าเกินไป แต่แสดงให้เห็นว่าเราพร้อมสนับสนุน ใช้น้ำเสียงที่จริงใจและไม่เร่งรัด เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจที่จะเปิดใจ เคล็ดลับ:คำพูดที่ว่า “ขอศึกษาดูก่อน” มักเป็นข้ออ้างปฏิเสธที่ไม่ตรงไปตรงมา หากเราถามคำถามและสร้างความไว้วางใจได้ ลูกค้าจะเปิดใจบอกปัญหาที่แท้จริง ทำให้มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น! คำถามที่ช่วยให้เราเข้าใจลูกค้า แก้ปัญหาได้ตรงจุด **การเข้าใจ Pain Points ของลูกค้า** – **คำถาม:** “ธุรกิจของคุณมีความท้าทายอะไรบ้างในตอนนี้?” –…